ประธานาธิบดี โอบาม่า แห่งสหรัฐอเมริกา ปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ด้วยความนอบน้อม ณ กรุงนิวเดลี ในโอกาสเยือนสาธารณรัฐอินเดีย
ประธานาธิบดี โอบาม่า แห่งสหรัฐอเมริกา ปลูกต้นโพธิ์! สัญลักษณ์เยือนอินเดีย ครั้งที่ ๒
: สำราญ สมพงษ์ นิสิตสันติศึกษา มจร รายงาน
การเยือนอินเดียคเป็นครั้งที่สอง ของประธานาธิบดีโอบามาและยังเป็นผู้นำสหรัฐคนแรกที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมชมพิธีสวนสนามเนื่องในวันชาติของอินเดียที่จัดขึ้นในวันจันทร์ (๒๖ ม.ค.) ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าผู้นำอินเดียต้องการสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่าง ๒ ประเทศ หลังจากนายกโมดีเพิ่งไปเยือนสหรัฐเมื่อหลายเดือนก่อน
แต่การเยือนของประธานาธิบดีโอบามาในครั้งนี้มีความเป็นพิเศษประการหนึ่งก็คือว่า ยังได้ปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่ราชฆาฎ (Raj Ghat) อนุสรณ์สถานมหาตมะ คานธี กรุงนิวเดลี พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ด้วย
ทั้งในเฟซบุ๊กวัดไทยเชตวันมหาวิหาร นครสาวัตถี อินเดียได้มีการโพสต์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าว และเจ้าของเฟซบุ๊ก"ทำฝันให้เป็นจริง กับสิ่งที่ตั้งใจทำ" ได้โพสต์ถึงที่มาของต้นพระศรีมหาโพธิ์ความว่า เป็นต้นที่พระพุทธเจ้าทรงนั่งประทับตรัสรู้ ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ สำหรับประวัติเมืองพุทธคยานั้น เป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาพุทธเจ้า โดยมีต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นต้นไม้แห่งการตรัสรู้ ต้นพระศรีมหาโพธิ์แห่งนี้รวมทั้งหมด ๔ มีต้น และทั้ง ๔ ต้นนี้ได้เจริญเติบโตทดแทนกันมาเรื่อยๆ จากที่เดิมและมีประวัติความเป็นมาอันยาวนานนับเป็นอนุสรณ์สถานที่มีคุณค่า ของชาวพุทธและมวลมนุษยชาติทั่วโลก ปัจจุบันพุทธคยาได้ถูกยกให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๕
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่หนึ่งเป็นต้นที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ พระองค์ได้รับการถวายหญ้ากุสะจำนวน ๘ กำ จากโสตถิยะพราหมณ์เพื่อปูเป็นที่ประทับเมื่อใกล้รุ่งของวันเพ็ญ เดือน ๖ จึงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระองค์ตรัสว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็น ต้นไม้แทนพระพุทธองค์ หากใครได้ไหว้ได้สักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็เท่ากับ ว่าได้ไหว้สักการะพระพุทธองค์ และหลังจากที่พระพุทธองค์เสด็จดับขัน ธปรินิพพานแล้ว มีผู้เลื่อมใสศรัทธามากราบไหว้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นจำนวนมาก
สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภ์ ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเป็นอันมากเช่นทรงสร้างพระเจดีย์ถวายเป็น พุทธบูชาจำนวนถึง ๘๔๐๐๐ องค์ ซึ่งทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชไม่สนพระทัยในความสุขส่วนพระองค์เหมือนเช่นเคย ว่างเว้นจากราชกิจก็มาปฎิบัติธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ไม่กลับวังที่ประทับ จึงเป็นเหตุให้เหล่านางสนมทั้งหลายต่าง พากันโกรธแค้น อิจฉาต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระมเหสีองค์ที่ ๔ ของพระเจ้าอโศกมหาราชนามว่า มหิสุนทรี ได้สั่งสาวใช้ให้นำยาพิษ และน้ำร้อนแอบไปรดที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์จนทำให้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ตายไปในที่สุด
การตายของต้นพระศรีมหาโพธิ์ทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชทรงเสียพระทัยมาก ทรงรับสั่งให้ใช้น้ำนมโค ๑๐๐ หม้อ ไปรดที่บริเวณรากของต้นโพธิ์และทรงอฐิษฐานพร้อมกับการสักการะก้มกราบพระองค์ทรงมีพระราชปรารภว่า หากแม้ว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์ไม่แตกหน่อขึ้นมาแล้วไซ้ร์จะไม่ยอมลุกขึ้นเป็นอันขาด ด้วยพุทธานุภาพและพระราชศรัทธาอันแรงกล้าแห่งพระเจ้าอโศกมหาราช ต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็แตกหน่อขึ้นมาใหม่ พระองค์ดีพระทัยเป็นอันมากจึงสั่งให้ก่อกำแพงล้อมรอบ เพื่อป้องกัน อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับต้นโพธิ์อีก
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สอง ถือเป็นต้นที่แตกหน่อมาจากต้นแรก และการที่พระเจ้าอโศกได้เผยแผ่ พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก จึงมีการนำต้นโพธิ์ไปปลูกในประเทศต่างๆ เช่น พระโสณะเถระและพระอุตตรเถระเดินทางมา ยังดินแดนสุวรรณภูมิ และพระมหินทเถระ สังฆมิตราเถรีเดินทางไปยังศรีลังกา โดยพระภิกษุเหล่านี้ได้นำต้นโพธิ์หรือกิ่งพระศรีมหาโพธิ์ไปด้วย
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สองถูกทำลายอีกครั้งในสมัยพระเจ้าสาสังการ แห่งฮินดู ซึ่งครองเมืองเบงกอล พระเจ้าสาสังการเกิดแข็งข้อต่อพระเจ้าปรณวรมา จึงรับสั่งให้ตัดต้นและขุดรากต้นโพธิ์ใช้ฟางอ้อยสุม ใช้น้ำมันราด และเผาต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งมีอายุราว ๘๗๑-๘๙๑ ปี เจ็ดวันหลังจากนั้น พระเจ้าสาสังการทรงอาเจียนเป็นพระโลหิต และสิ้นชีพตักษัยที่พุทธคยา ซึ่งพระเจ้าปรณวรมาเสด็จมาพอดี จึงตีทัพของเบงกอลแตกพ่ายไป และทรงให้ชาวบ้านรีดนมโค ๑,๐๐๐ ตัว เอาน้ำนมที่ได้เทราดบริเวณต้นโพธิ์ที่ถูกเผา พระเจ้าปรณวรมาทรงนอนคว่ำหน้าลงกับพื้นพร้อมอฐิษฐานตามแบบพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็แตกหน่อขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สาม ในปี พ.ศ. ๒๔๑๘ ท่านเซอร์คันนิ่งแฮม หัวหน้าคณะสำรวจพุทธสถานในช่วงอังกฤษปกครองอินเดียได้เดินทางไปที่พุทธคยา เป็นครั้งที่สอง พบว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์ทรุดโทรมมาก ประชาชนชาวฮินดูในบริเวณนั้นได้ตัดกิ่งก้านไปทำเชื้อเพลิง และในปี พ.ศ. ๒๔๒๑ ต้นพระศรีมหาโพธิ์เบียดกับเจดีย์พุทธคยาได้ล้มลงไปทางทิศตะวันตกและตายไปเอง ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สามมีอายุครบ ประมาณ ๑๒๕๘-๑๒๗๘ ปี
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สี่ เป็นต้นที่ยังคงอยู่ที่พุทธคยาในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในสองหน่อที่แตก ขึ้นมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สามที่ล้มตายไป โดยท่านเซอร์คันนิ่งแฮมได้ บำรุงดูแลหน่อที่เกิดมานั้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๒๓ และนำอีกหน่อหนึ่งไปปลูกไว้ด้านทิศเหนือของเจดีย์พุทธคยาห่างจากต้นเดิม ประมาณห้าสิบเมตร
ปัจจุบันต้นพระศรีมหาโพธิ์ทั้งสองต้นยังคงอยู่มีอายุได้ถึงทุกวันนี้ อายุได้ ๑๒๙ ปีเต็ม ท่านสาธุชนผู้ศรัทธาสามารถเดินทางไปสักการะได้ด้วยตนเอง ปัจจุบันนี้มีสายการบินไทยบินตรงจากสุวรรณภูมิถึงพุทธคยาโดยใช้เวลาบินเพียง ๔ ชั่วโมง ๑๕ นาทีเท่านั้นท่านก็ได้สักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้วถือว่าเป็นศิริมงคลสูงสุดกับชีวิตตัวเองและครอบครัวมาก ใครที่คิดจะไปก็รีบกันได้เลยอย่ารอช้าก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้เดินทางไปกัน
ตลอดทั้งปีได้เห็นชาวพุทธทั่วโลกเดินทางไปแสวงบุญที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์รวมถึงสังเวชนียสถานต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างแรงวิริยบารมีที่จะบำเพ็ญเพียรเพื่อรู้แจ้งในอริยสัจ ดังที่เจ้าชายสิทธัตถะได้เคยกระทำมาแล้ว
Social Plugin